สิงคโปร์ Lah ที่ไม่ได้มีแต่คำว่า Lah ภาค 1

Noyn4a
1 min readApr 3, 2019

--

เวลาเราจะไปเที่ยวสิงคโปร์ หรือตอนที่บอกทุกคนว่าจะย้ายไปทำงานที่สิงคโปร์ ก็จะมีแต่คนแซวว่า สิงคโปร์ลา ระวังติดคำว่า ลา นะ

หรือแม้กระทั่งตอนที่ย้ายมาทำงานใหม่ ก็จะมีแต่คนมาถามว่า “เห่ย เขาใช้คำว่า ‘ลา’ เยอะใช่มั๊ย ติดพูดแบบนี้ไปบ้างยัง”

ถ้าถามว่าคนสิงคโปร์ใช้คำว่า ลา หรือ lah กันบ่อยมั๊ย….

บ่อยมากกกกกกกก

ฮ่าาา ก็บ่อยจริงๆนั่นแหละ ตามที่คนไทยเข้าใจ

แต่เดี๋ยวก่อน!!!!

คนสิงคโปร์ไม่ได้จบประโยคด้วยคำว่า lah อย่างเดียวเท่านั้น ยังมีอีกหลายคำที่เขาใช้เพื่อจบประโยคเช่นกัน ซึ่งแต่ละคำนั้นให้อารมณ์และความหมายไม่เหมือนกัน

แล้วพวกคำเหล่านี้มาจากไหนกันละ พวกคำลงท้ายที่คนที่นี้ใช้กันรับมาจากภาษาจีน ส่วนตัวแล้วเราไม่ชัวร์ภาษาจีนเขาใช้กันบ่อยมั๊ย แต่คนจีนที่นี้ใช้กันจนเชื้อชาติอื่นๆ ในสิงคโปร์ เช่น คนอินเดีย คนมาเลย์ ได้รับอิทธิพลตามไปด้วย จึงทำให้สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของภาษา Singlish นั่นเอง

วันนี้เราเลยอยากมาอธิบายวิธีที่ใช้คำจบประโยคต่างๆ ให้ทุกคนได้รู้จักกัน

คำลงท้ายหรือคำจบประโยคที่คนสิงคโปร์ใช้ มีอยู่ทั้งหมด 9 คำด้วยกัน แต่ว่าวันนี้เราจะมาแนะนำให้ 5 คำก่อน

1. Lah
เรามาเริ่มด้วยคำยอดฮิตที่ทุกคนรู้จักกัน คำว่า ลา นั่นเอง เขียนได้หลายแบบ La, Laa, หรือ Lah แต่ส่วนใหญ่เขาจะสะกดว่า Lah กัน ทำไมต้องลงท้ายด้วย Lah มันเหมือนเป็นคำจบประโยคที่มันทำให้รู้สึกว่ามันจบประโยคจริงๆ มันเหมือนเป็น signature ของ Singlish

“Let’s go lah”

“Sorry lah”

“Okay lah”

“Can lah”

2. Leh
คำๆนี้ เป็นการให้ความมั่นใจแก่ผู้ฟัง หนักแน่นกว่าคำว่า Lah เช่น “Can leh” แปลว่า เห่ย ได้ๆ ทำให้ได้เลย

3. Lor
คำนี้เป็นการให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งกับประโยคที่พูดออกมา เหมือนพวกเพลงของ Getsunova ฮ่าาา เช่น “Can lor” แปลว่า เราไม่คิดว่าจะทำได้หรอก แต่เอาเหอะ ลองทำดูน่าจะได้แหละ

4. Liao
อันนี้จริงๆแล้วในภาษาจีน มันคือคำว่า Ler แต่ใน Singlish กลับกลายเป็นคำว่า Liao ซึ่งเป็นการบอกคนฟังว่า การกระทำนั้นๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น “Can liao” แปลว่า ทำเสร็จแล้ว

5. Meh
คำนี้เหมือนถูกใช้จะกลายเป็นประโยคคำถามที่ให้ความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวผู้สนทนาด้วย เช่น “Can meh?” ชัวร์ป่ะเนี่ย ว่าทำได้จริง

นี่เป็น 5 คำหลักๆที่เราได้ยินบ่อยๆ จากคนรอบข้าง

ภาษา Singlish นี่มันก็อเมซิ่งเหมือนกันเนอะ แค่เปลี่ยนคำลงท้าย ความหมายก็เปลี่ยนละ หวังว่าทุกคนจะไม่งงกับคำอธิบายของเรานะ >< เดี๋ยวรอบหน้าเราจะมาต่อกับอีก 4 คำที่เหลือกัน

--

--

Noyn4a

web coder who still trying to learn,, MBA grad student who still finding a way