The Last Day of 2021

Noyn4a
1 min readDec 31, 2021

วันสุดท้ายของปี 2021 พอนึกย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าเป็นปีที่หนักหน่วงไม่แพ้ปีที่แล้วเลย เป็นปีที่เหนื่อย แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้น และก็ต้องต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเยอะพอสมควรกว่าจะเริ่มเข้าใจว่าเราต้องการอะไร แล้วควรทำอะไรต่อ

เดือน 1–3

คือหนักหน่วงมาก เพราะต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วที่ได้รับโอกาสเป็น Squad Lead แล้วต้องรับช่วงต่อเพื่อ launch โปรเจคภายใน 3 เดือนในเดือน พ.ย. 2020 ด้วยเวลาที่มันสั้นมาก แน่นอนว่าบั๊กกระจาย เลยเป็นช่วงที่ต้องชดใช้กรรม ทุกวันต้องตื่นขึ้นมาเจอ message จากฝั่ง support ตอน 7–8 โมงเช้า เรากับ PM คือท้อแท้มาก โดนเบื้องบนด่าเกือบทุกวัน

สุดท้าย PM ก็ได้งานใหม่ ดีใจกับนางมากๆ เพราะนางโดนเยอะกว่าเรา แถม manager นางไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แต่ก็เศร้าเหมือนกัน เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมาตั้งนานกับโปรเจคนี้

เนื่องด้วยความเครียดจากงาน ต้นปีเลยใช้เงินเยอะมากๆ ตั้งแต่ซื้อโทรศัพท์ใหม่, Mac Mini, เปียโน midi เราเป็นพวก Pulsive buyer เวลาเครียด 🙈

เดือน 4–6

หลังจากที่หางานใหม่มานานมาก สมัครไปหลายที่ ถ้าไม่เงียบไปเลย ก็คือสัมภาษณ์ไม่ผ่าน แต่ในที่สุดก็ได้ offer ซึ่งก็ตอบตกลงไป แต่แล้วก็เกิดปัญหาจนได้ ด้วยความที่มันเป็นช่วงที่เราต้องต่ออายุ Employment Pass ที่บริษัทเก่าที่กำลังจะหมดอายุในเดือน 7 และเราไม่อยากเสี่ยงเลยให้บ.เก่าต่ออายุก่อน และบ.ใหม่ค่อยทำเรื่องบัตรใหม่ตอนที่ต่อเสร็จแล้ว แต่กรมแรงงานสิงคโปร์คือเข้มงวดมากตั้งแต่ปีที่แล้ว บวกกับบ.เก่าคนต่างชาติเยอะมาก โดน Reject เรื่องต่ออายุ EP กันเยอะมาก กว่าบ.ใหม่จะได้ทำเรื่องบัตรใหม่ก็เดือน 7 ไปละ

ซื้อ Folding Bicycle กับ Cruiser Board เป็นช่วงที่เริ่มออกกำลังกายเยอะขึ้นมานิดนึง พยายามลากแฟนไปปั่นจักรยานด้วย อารมย์ช่วงนี้ถือว่าคงตัวพอสมควร อาจจะเป็นเพราะออกกำลังกาย สุขภาพดีขึ้นทั้งกายและใจ

เดือน 7–9

เป็น 3 เดือนสุดท้ายของการทำงานที่บ.เก่า ช่วงนี้เป็นช่วงทำการทดลองใน Squad เนื่องจากงานเริ่มเบาลง จริงๆก็พอจะเบาลงตั้งแต่ quarter ที่แล้วละ และทีมก็เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น PM คนใหม่ก็ถือว่าดีพอสมควร ก็เลยสนุกกับการลองผิดลองถูกในเรื่องของการ Manage ทีม และพยายามปรับ Process การทำงานต่างๆที่จะสามารถช่วยทีมให้ทำงานได้ดีขึ้น รู้สึกได้เรียนรู้อะไรต่างๆมากขึ้นในเรื่องของ Leadership และ Management จากที่เคยอยากทำ Product Management เริ่มรู้สึกว่ามาเอาดีด้าน Project Management น่าจะดีกว่า

ได้รับข่าวร้ายจาก Landlord จากที่ตอนแรกเขาโอเค(คุยกันปากเปล่า) จะให้เราเช่าบ้านต่ออีกปีนึง ซื้อโต๊ะทำงานใหม่เรียบร้อย เขาก็มาบอกว่าจะขายบ้าน เซ็งและเศร้าหน่อยๆ แต่ดีที่เตรียมแผนไว้แล้วว่าจะย้ายเข้าบ้านพี่ชายแฟน ถ้าไม่ได้อยู่ที่เดิมต่อ

เดือน 10–12

เริ่มงานที่ Versent เป็นการค้นพบ Culture การทำงานใหม่ๆที่ไม่เคยเจอมาก่อน Work Life Balance คือดีมากเว่อร์ ดีเกินไป ด้วยความที่สาขาสิงคโปร์ยังถือว่าใหม่ในตลาด Tech Consultant อยู่ เลยไม่ค่อยมีโปรเจคอะไรเท่าไหร่ เดือนแรกเราเลยว่างมาก ทีมหลีดบอกว่าอย่าไปเครียด นั่งเก็บ Skill ไปก่อน เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไม่เครียดก็คือไม่ใช่เรา ฮ่าาา ด้วยความที่มันเป็นบ. Tech ที่เรารู้สึกว่าทุกคนแม่งเก่งมากๆ แล้วที่เก่าเราไม่ได้โค้ดเยอะขนาดนั้น มันเลยรู้สึกกดดัน Imposter Syndrome มากๆ ก็นั่งเก็บ skill ไปแบบเครียดๆ ถือว่าเป็น 1 เดือนที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ TypeScript เอย Parcel เอย Rollup เอย ในที่สุดก็ได้ไปอยู่โปรเจคของทีมออสเตรเลีย เขียน VueJS 😂 ไม่ชอบเลย ไม่ชินกับ Paradigm ของมัน แต่ทีมดีมากๆ ทำมาเกือบ 2 เดือน ได้ feedback ดีๆกลับมา รู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมานิดนึง

มีเรื่องดีๆ อีกเรื่องคือได้กลับมาคุยกับคนที่เคยสนิท หลังจากที่ห่างหายกันไปนานมากๆ เพราะตัวเราที่ไม่ยอมปล่อยวาง แต่พอรู้จักปล่อยก็รู้สึกดีมากๆ ดีใจนะที่ได้กลับมาคุยกันอีก

สุขภาพช่วงท้ายปีคือพังมากๆ เริ่มหยุดออกกำลังกายตั้งแต่ท้าย Quarter ที่แล้ว ด้วยความขี้เกียจ สุดท้ายคือเป็นหวัด ไข้อ่อนๆอยู่ 2–3 วันจนนึกว่าเป็นโควิด แต่ตรวจทั้ง ATK และ PCR ที่คลีนิก ผลเป็นลบก็รอดตัวไป แต่ไอหนักมาก ไออยู่เดือนกว่า จนแฟนก็ติดหวัดไปด้วย เพิ่งมาอาการดีขึ้นตอนปลายเดือนพ.ย.

ปีนี้โดยรวมรู้สึกว่าเราใส่ใจคนข้างๆน้อยลงมากๆ ไม่อยากอ้างเหตุผลว่าเครียด แต่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเราให้ Priority กับงานมากเกินไป ทะเยอทะยานเกินตัวจนลืมไปว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียวนะ จริงๆมันก็ตั้งแต่ปีที่แล้วละ ที่เราเอาให้ความเครียดจากงานมากระทบความสัมพันธ์

ปีหน้าอยากให้ตัวเองใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์มากกว่านี้ ทั้งแฟน ครอบครัว และเพื่อนๆ อยากพัฒนาเรื่อง Skill Project managment และเริ่มหาลู่ทางในบริษัทเพื่อที่จะได้ไปต่อด้านนี้ และหวังว่าเราจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่ไทยสักที

--

--

Noyn4a

web coder who still trying to learn,, MBA grad student who still finding a way